Pages

Friday, June 14, 2013

การแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ เขียนแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ

การแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ เขียนแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ
 http://blog.janthai.com/wp-content/uploads/2013/01/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9.jpg
การแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ใช้สำหรับแนะนำตัวเองในการรายงานหน้าชั้น ในที่สาธารณะ บนเวทีต่างๆ การเริ่มพูดคุยกับผู้อาวุโสกว่า หรืออายุเยอะกว่า มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงกว่าตัวเรานะครับ

Good Morning ! Let me introduce myself.  My name is Thanawat.
สวัสดีตอนเช้าครับ ขอแนะนำตัวเองนะครับ ผมชื่อฐานวัฒน์

Good Morning everybody, everyone ! I would like to introduce myself.
สวัสดีตอนเช้าครับทุกท่าน ผมอยากจะขอแนะนำตัวนะครับ

Good Morning honoured guest !
สวัสดีท่านผู้ีมีเกียรติทุกท่านครับ

I would like to introduce myself or .....
Let me introduce myself or....
May I introduce myself ....
My name is....
I am....

การแนะนำตัวอย่างไม่เป็นทางการ ใช้สำหรับการแนะนำตัวเองกับเพื่อนใหม่ คนอายุใกล้เคียงกัน

Hello ! My name is Thanawat. You can call me Tong.
สวัสดีครับ ผมชื่อฐานวัฒน์  สามารถเรียกผมว่าทองนะครับ

Hi ! My name is Thanawat. My nick name is Tong.
สวัสดีครับ ผมชื่อฐานวัฒน์ ชื่อเล่นของผมคือทอง

บอก ข้อมูลของเราเบื้องต้น หลังจากเราแนะนำตัวแล้วต้องมีการกล่าวข้อมูลเบื้องต้นด้วยครับ มักจะต้องพูดในการสัมภาษณ์งานต่างๆ เค้าจะให้เราพูดไปเรื่อยๆ หรืออาจมีคำถามเราจึงตอบก็ได้ครับ

I was born in Bangkok, Thailand.  ผมเกิดที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทยครับ

I am 20 years old. ผมอายุ 20 ปีครับ ( อิอิ ขอลดอา่ยุหน่อยนึง )

I have two sisters,one elder brother and one younger brother.
ผมมีน้องสาว2คน น้องชาย1คน และพี่ชาย1คนครับ

I work for TLM company in Suvarnabhumi airport.
ผมทำงานอยู่ที่บริษัท TLM ที่สนามบินสุวรรณภูมิครับ

I live in Bangkok for 20 years.
ผมอยู่ที่กรุงเทพมหานครมา 20 ปีแล้วครับ

Excuse me, How old are you? ขอโทษนะครับ คุณอายุเท่าไหร่ครับ
What is your age?  คุณอายุเท่าไหร่ครับ
I'm ..... years old. ผมอายุ....
When were you born? คุณเกิดเมื่อไหร่
What is your birthday? วันเกิดของคุณคือวันไหนครับ
Where were you born? คุณเกิดที่ไหนครับ
How tall are you? คุณสูงเท่าไหร่ครับ
How height are you?
How much do you weigh? คุณหนักเท่าไหร่ครับ
How weight are you?
Are you single? คุณโสดรึเปล่าครับ
Where do you live? คุณอยู่ที่ไหนครับ
May I have your address? ผมขอที่อยู่คุณได้ไหมครับ

หลังจากแนะนำตัวเสร็จอีกฝ่ายจะพูดเกี่ยวกับตัวของเขาบ้างแล้วจบด้วยประโยคตามข้างล่างนี้ครับ

Oh! Nice to meet you! โอ ยินดีที่ได้พบกันครับ
Great to meet you! เยี่ยมมากที่ได้พบคุณครับ
Pleased to meet you! ยินดีที่ได้พบครับ
Good to know you! เป็นเรื่องที่ดีที่ได้รู้จักคุณครับ
Good to meet you here ! ดีจังที่เจอคุณที่นี่
Glad to meet you ! เป็นสิ่งดีที่พบคุณ
Happy to be your friend! ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับคุณครับ
It's an honour to meet you ! เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ

If you don't mind could I have your email address ? ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขออีเมล์ได้ไหมครับ

Yes, my email is .....  จัดไปครับ อิอิ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          ใครที่สปีคภาษาอังกฤษไม่ค่อยถนัด แต่มีนัดสัมภาษณ์งาน และจำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษในการแนะนำตัว คงจะกำลังกระวนกระวายใจ หาข้อมูลยกใหญ่ว่า ควรจะพูดอย่างไรดี ประโยคไหนถูก ประโยคไหนเหมาะ วันนี้กระปุกดอทคอม ขอนำเสนอตัวอย่างประโยคแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษง่าย ๆ พร้อมคำแปล มาฝากกัน

 การทักทาย

           Hello / Good Morning / Good Afternoon (สวัสดีค่ะ/ครับ)

           How are you today (สบายดีไหมคะ/ครับ?)

           How do you do? (สบายดีไหมคะ/ครับ?)

 แนะนำตัวเมื่อไปสัมภาษณ์งาน

           Let  me introduce my self (ขอแนะนำตัวเอง)

           My name is ..... (บอกชื่อ-นามสกุล)

           I was born on Friday 13 th of May 1988. I am 24 years old (ผม/ดิฉัน เกิดเมื่อ 13 พฤษภาคม 2531 อายุ 24 ปี)

           I have no brothers or sisters. and I am single (ผม/ดิฉัน ไม่มีพี่น้อง สถานภาพ โสด)

           I graduated in ….. (คณะที่จบการศึกษา เช่น Communication Arts คณะนิเทศศาสตร์) major …. (สาขาที่จบ เช่น Journalism  วารสารศาสตร์) from …...(มหาวิทยาลัยที่จบ เช่น Rangsit university มหาวิทยาลัยรังสิต) with GPA 3.80 (เกรดเฉลี่ย 3.8)

 ทัศนคติต่อชีวิตช่วงเรียนมหาวิทยาลัย

           I learned to do things which I never could do before. I had a great chance to learn about life, the activities of life, meet new friends, and a lot more other things than I can say (ฉันได้รู้จักและได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้โอกาสเรียนรู้ถึงการใช้ชีวิต ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ และยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คงบรรยายได้ไม่หมด)

 คุณสมบัติส่วนตัว

           My most important qualifications is good attention and patience (คุณสมบัติที่สำคัญของผม/ดิฉัน คือ ความตั้งใจและความอดทนครับ/ค่ะ)

           When I start to do anything I will go on until the job is done (ตัวอย่างของความตั้งใจและความอดทน คือ เมื่อผม/ดิฉัน เริ่มทำงานบางอย่าง ผม/ดิฉัน จะลงมือทำมันจนเสร็จสิ้น)

           I am easy going. I can get along with anybody. (เป็นคนเข้ากับคนง่าย สามารถเข้ากันได้กับคนทุกรูปแบบ)

           My hobbies are surfing the internet, watching movies and reading books. They’re all have a lot of knowledge. (งานอดิเรกคือการเล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ และอ่านหนังสือ เพราะมีความรู้มากมายอยู่ในนั้น)

 เป้าหมายในการทำงาน

           I would like to have a good job which brings a stable income, have security, a family and be able to do some good things that people can remember me by. (มีงานดี ๆ ที่รายได้แน่นอน และมีความมั่นคงในชีวิต มีครอบครัว และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ผู้อื่นได้จดจำ)

 เหตุผลที่เลือกบริษัทนี้

           Because this company has a good image of stability and security. It’s like when you want to travel on a ship, certainly you would choose a ship that you feel confident  with. (เพราะว่าบริษัทนี้มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความมั่นคง และความปลอดภัย เหมือนกับถ้าคนเราจะลงเรือสักลำ ก็คงต้องเลือกเดินทางไปกับเรือที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย และมั่นใจ)

 ก่อนจบการสัมภาษณ์

           I really appreciate the chance to have an interview with you today. Thank  you so much. (ขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์วันนี้)

          นี่เป็นแค่ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ สำหรับการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ และสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคย ลองฝึกฝนหน้ากระจกก่อนก็ได้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ... สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสัมภาษณ์งานนะจ๊ะ

ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ รูปแบบง่ายๆ ในสไตล์ที่ไม่เป็นทางการ

การเขียนประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ ในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการเอาไว้ใช้ตอนที่เราอยากจะเขียนแนะนำตัวเองให้ชาว โลกได้รับรู้ หรือเขียนโต้ตอบแลกเปลี่ยนข้อมูลบนโลกออนไลน์ หรือแม้แต่เป็นงานที่ครู หรืออาจารย์มอบหมายให้เขียนบรรยายเล่าประวัติตัวเองก็ได้ แต่ถ้าจะเอาแบบเป็นทางการในเชิงประวัติในการทำงาน
http://upic.me/i/9m/1232708403.jpg
การเขียนประวัติส่วนตัวในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการก็ไม่มีอะไรเป็นกฏตายตัว แน่นอน เพราะอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เราต้องการบอก หรือไม่ต้องการบอกก็ขึ้นอยู่กับเรา ซึ่งข้อมูลคร่าวๆ ก็อาจจะเป็นดังนี้
  1. ฉันคือใคร  ข้อมูลของตัวเองคร่าวๆ
  2. ฉันมาจากไหน บ้านช่องอยู่แห่งหนใด
  3. ครอบครัวของฉันมีใครบ้าง
  4. ฉันเรียน หรือทำงานอยู่ที่ไหน
  5. ฉันชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
หัวข้อหลักๆ ก็มีเท่านี้แหละ ใครอยากจะเพิ่มเสริมอะไร หรือลดอะไรก็ได้ เพราะเป็นสไตล์อิสระ ไม่มีผิดถูก มาดูตัวอย่างกันเลยครับ
My name is Somsak Rakdee. I’m from Thailand. I live in Chiangmai. Chinagmai is in the north of Thailad. I’m fifteen years old. My family lives in a small village. I come from quite a small family. There are four people in my family. My mother’s name is Somying and my father’s name is Somchai. I’ve got one brother. His name is Sommai and he’s thirteen. I’ve got one sister. Her name is Somsong and she’s five. We’ve got one dog and tow cats.
My brother and I go to ABC Secondary School. I’m in grade nine. I like English but I don’t like math because I hate numbers. Sommai is in grade seven and he also likes English. My father is teacher. He teaches science and physics. My mother is a housewife.
My brother and I love football. We play football everyday. I also like volleyball but Sommai doesn’t like it at all. My professional football team is Liverpool and my faverite football player is Luis suarez .
These are all about me.
คร่าวๆแค่นี้แล้วกัน อยากเพิ่มเติมตรงไหนอย่างไรก็ตามสะดวกเลยครับ ลองมาดูคำแปลประกอบด้านล่างเลยครับ เผื่อใครที่ยังแปลไม่ได้
ผมชื่อสมศักดิ์ รักดี ผมมาจากประเทศไทย ผมอาศัยอยู่ในเชียงใหม่ เชียงใหม่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย ผมอายุ 15 ปี
ครอบครัวของผมอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ผมมาจากครองครัวค่อนข้างเล็ก มีสมาชิก 4 คนอยู่ในครอบครัวของผม แม่ของผมชื่อสมหญิง และพ่อของผมชื่อสมชาย ผมมีน้องชายหนึ่งคน เขาชื่อสมหมายและเขาอายุ 13 ปี ผมมีน้องสาวหนึ่งคน เธอชื่อสมทรง และเธออายุ 5 ปี พวกเรามีหมา 1 ตัว และแมว 2ตัว
น้องชายของผมและผมเรียนที่โรงเรียนมัธยมเอบีซี ผมอยู่ ป.9 (ม.3) ผมชอบภาษาอังกฤษ แต่ผมเกลียดวิชาคณิต เพราะว่าผมเกลียดตัวเลข สมหมายอยู่ชั้น ป.7 (ม.1) และเขาก็ชอบภาษาอังกฤษเหมือนกัน พ่อของผมเป็นครู เขาสอนวิชาวิทยาศาสตร์และฟิสิกส์ แม่ของผมเป็นแม่บ้าน
น้องชายของผมและผมชอบฟุตบอล พวกเราเล่นฟุตบอลทุกวัน ผมยังชอบวอลเลย์บอลอีกด้วย แต่สมหมายไม่ชอบมันเลย ทีมฟุตบอลมืออาชีพที่ชื่นชอบของผมคือ ลิเวอร์พูล และผู้เล่นฟุตบอลที่ชื่นชอบของผมคือ ลุยส์ ซัวเรส
เหล่านี้คือเกี่ยวกับตัวของผม

Tense คืออะไร

Tense คือ โครงสร้างประโยคซึ่งมี อยู่ด้วยกัน 3 กลุ่มใหญ่ (เวลา) 12 รูปแบบย่อย (Tense)
http://www.dek-eng.com/Editor/assets/mainpics/englishtenses.jpg
อะไรที่ทำให้โครงสร้างของประโยคมี 3 กลุ่ม 12 รูปแบบ
คำตอบคือ เวลา   ได้แก่
  • อดีต
  • ปัจจุบัน
  • อนาคต
12 รูปแบบที่ว่า คืออะไร
คือ  Tense ทั้ง 12  ซึ่งมีโครงสร้างของคำกริยาที่ต่างกัน เช่น
I eat 
I am eating 
I have eaten
I have been eating
คำกริยาหลักของประโยค ก็คือ กิน แต่ความหมายจริงๆ ต่างกันทั้งหมด  ซึ่งจะได้เรียนรู้ในเรื่องของโครงสร้าง Tense ทั้ง 12 พร้อมคำแปลต่อไป

ตอนนี้กำลังเข้าสู่บทเรียนเรื่อง Tense อย่างจริงจรังนะครับ หลังจากที่ปูพื้นมาซะนานนม มันก็ต้องปูพื้นฐานให้แน่นก่อนเป็นธรรมดาแหละครับ จึงจะเรียนรู้ได้เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจไวยากรณ์พื้นฐานเลย กระโดดมาเรียนเรื่อง Tense รับรองจะยิ่งงงไปใหญ่
Tense คือหัวใจของภาษาอังกฤษเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นโครงสร้างของภาษานั่นเอง

ก่อนเรียน Tense ต้องรู้อะไรมาบ้าง

  • ประธานเอกพจน์ ประธานพหูพจน์ (นาม, สรรพนาม)
  • กริยา 3 ช่อง
    เอาแค่นี้พอ อย่างอื่นพอถูไถไปได้ ถ้ไม่รู้สองตัวนี้ก็จบเห่กันพอดี

Tense จริงๆแล้วมีเท่าไหร่

ถ้า Tense หมายถึงโครงสร้างของประโยค ภาษาอังกฤษ มี 12 รูปแบบ (Active Voice ประธานเป็นผู้กระทำ) และ 12 รูปแบบ (Passive Voice ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ) รวมเป็น 24 รูปแบบ  โอ้ตายแล้ว เยอะจัง เยอะสิครับ คนเลยคิดว่ามันยาก แล้วไม่ค่อยศึกษากันอย่างจริงจัง
ก่อนอื่นให้เรียนเรื่อง Tense ที่เป็น Active Voice ให้เข้าใจก่อนไปตามลำดับ เหมือนกับที่เราหัดอ่าน ก ไก่ ข ไข่ นั้นแหละ

อะไรคือความแตกต่างของแต่ละ Tense

สิงที่แตกต่างชัดเจนคือ กริยา

คำแปลของ Tense

คำแปลของแต่ละ Tense ต่อไปนี้ เมื่อนำมาแปลเป็นไทยจริงๆ จะต้องเกลาให้เป็นภาษาที่คนทั่วไปใช้กันนะครับ แต่ที่แปลแบบนี้เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นภาพแค่นั้นเอง

โครงสร้างของ Tense 12

ปัจจุบัน
  • Present Simple
    I eat. กิน
  • Present Continuous
    I am eating.  กำลังกิน
  • Present Perfect
    I have eaten. กินแล้ว
  • Present Perfect Continuous
    I have been eating. กินแล้ว (อย่างต่อเนื่อง)
อดีต
  • Past Simple
    I ate. ได้กิน
  • Past Continuous
    I was eating. ได้กำลังกิน
  • Past Perfect
    I had eaten. ได้กินแล้ว
  • Past Perfect Continuous
    I had been eating. ได้กินแล้ว (อย่างต่อเนื่อง)
อนาคต
  • Future Simple
    I will eat. จะกิน
  • Future Continuous
    I will be eating. จะกำลังกิน
  • Future Perfect
    I will have eaten. จะกินแล้ว
  • Future Perfect Continuous
    I will have been eating. จะกินแล้ว (อย่างต่อเนื่อง)
เห็นคำแปลอย่าเพิ่งงงนะครับ ค่อยอ่านคำอธิบายแต่ละ Tense แล้วจะอ๋อเองครับ

กริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อย พร้อมคำอ่าน คำแปล

กริยา 3 ช่อง คือ อะไร คือคำเรียกที่ให้ง่ายแก่การเข้าใจ เพราะมันมีสามช่องนั่นเอง กริยาสามช่องนี้จะนำไปใช้เมื่อเราเรียนเรื่อง Tense เพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร
http://www.pnngroup.in.th/wp-content/uploads/2010/10/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B23%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-+-Tense2.gif
กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อยๆ ก็มีตามที่คัดมาให้ด้านล่าง คำที่พิมพ์หนาหมายถึง คำที่ใช้บ่อยสุดๆ ต้องจำให้ได้เลย
ดาวน์โหลดไฟล์ กริยา 3 ช่อง

Irregular Verb กริยาอปกติ



ช่อง 1 ช่อง 2 ช่อง 3 แปล
1
be = is, am, are was, were been เป็น อยู่ คือ
2
become (บิคั๊ม) became  (บิเค๊ม) become กลายเป็น
3
begin (บิกิ๊น) began  (บิแก๊น) begun (บิกั๊น) เริ่มต้น
4
bet  เบ็ท bet เบ็ท bet พนัน
5
bite ไบท bit บิท bitten (or bit) บิทเทิน กัด
6
bleed บลีด bled  เบล็ด bled เลือดออก
7
blow บโล blew บลู blown บโลน พัด เป่า ตี
8
break เบรก broke บโรค broken บโรคเคิน แตก
9
bring บริง brought บรอท brought นำมา เอามา
10
build บิลด built  บิลท built สร้าง
11
burst เบิสท burst burst ระเบิด
12
buy บาย bought บอท bought ซื้อ
13
catch แค็ทช caught คอท caught จับ , ขึ้นรถ
14
choose ชูส chose โชส chosen โชเซิน เลือก
15
come  คัม came เคม come มา
16
cost  คอสท cost cost มีราคา
17
cut cut cut ตัด
18
dig  ดิก dug ดัก dug ขุด
19
dive ไดฝ dived (or doveโดฝ) dived ไดฝด ดำนํ้า
20
do ดู did ดิด done ดัน ทำ
21
draw ดรอ drew ดรู drawn  ดรอน ลาก วาด เขียน
22
drink  ดริงค drank ดแรงค drunk ดรังค ดื่ม
23
drive ไดรฝ drove ดโรฝ driven ดริฝเฝิน ขับ(รถ)
24
eat อีท ate เอท eaten อีทเทิน กิน
25
fall ฟอล fell เฟ็ล fallen ฟอลเลิน ตก หล่น
26
feel ฟีล felt เฟ็ลท felt รู้สึก
27
fight ไฟท fought ฟอท fought ต่อสู้
28
find ไฟนด found  เฟานดึ found พบ
29
fly ฟลาย flew ฟลู flown ฟโลน บิน
30
forbid ฟอบิด forbade ฟอเบด forbidden ฟอบิดเดิน ห้าม
31
forget ฟอเก็ท forgot ฟอก็อท forgotten ฟอก็อทเทิน ลืม
32
freeze ฟรีส froze โฟรส frozen โฟรสเซิน แข็งตัว หนาว
33
get เก็ท got ก็อท got เอา ได้รับ
34
give กิฝ gave เกฝ given กิฝเฝิน ให้
35
go โก went เว็นท gone กอน ไป
36
grind กรายด ground  กราวด ground บด ลับ
37
grow กโร grew กรู grown กโรน เติบโต, ปลูก
38
hang (pictures) แฮง hung ฮัง hung แขวน ห้อย
39
hang (people) แฮง hanged  แฮงด hanged แขวนคอ
40
have แฮฝ had แฮด had มี
41
hear เฮีย heard เฮิด heard ได้ยิน
42
hide ฮายด hid ฮิท hidden ฮิดเดิน ซ่อน
43
hurt เฮิท hurt hurt ทำร้าย
44
know โน knew นู known โนน รู้
45
lay เล laid เลด laid วาง ออกไข่
46
lead ลีด led เหล็ด led นำ
47
learn เลิน learnt เลินท learnt เรียนรู้
48
leave ลีฝ left เล็ฟท left ละทิ้ง, จากไป
49
lend เล็นด lent  เล็นท lent ให้ยืม
50
lie ลาย lay เล lain เลน นอน
51
light ไลท lit  ลิท lit จุดไฟ
52
lose ลูส lost ลอสท lost แพ้ ทำหาย
53
make เมค made เมด made ทำ
54
meet มีท met เม็ท met พบ
55
mistake มิสเตค mistook มิสตุค mistaken มิสเตคเคิน ทำผิด
56
pay เพ paid  เพด paid จ่าย
57
put พุท put put วาง
58
quit ควิท quitted ควิทเท็ด (or quit) quit ควิท เลิก
59
read หรีด read เหร็ด read เหร็ด อ่าน
60
ride รายด rode โรด ridden ริดเดิน ขี่
61
ring ริง rang แรง rung รัง สั่น (กระดิ่ง)
62
rise ไรซ rose โรส risen ริสเซิน ขึ้น ลุกขึ้น
63
run รัน ran แรน run วิ่ง
64
say เซ said เซด said พูด
65
see ซี saw ซอ seen ซีน เห็น
66
seek ซีค sought ซอท sought ค้นหา
67
sell เซ็ล sold โซลด sold ขาย
68
set เซ็ท set set จัด
69
shake เชค shook  ชุค shaken เขย่า สั่น
70
shine ชายน shone  โชน shone ส่องแสง
71
shrink ชริงค shrank  ชแรงค shrunk ชรัง หดลง สั้นลง
72
sing ซิง sang แซง sung ซัง ร้องเพลง
73
sink ซิงค sank แซงค sunk ซังค จม ถอยลง
74
sit ซิท sat แซ็ท sat แซ็ท นั้ง
75
slide สไลด slid สลิด slid สื่นไถล, เลื่อนไป
76
sleep สลีพ slept  สเล็พท slept นอนหลับ
77
speak สปีค spoke สโปค spoken สโปเคิน พูด
78
spin สปิน spun สปัน spun ม้วน กรอ ปั่นฝ้าย
79
split สปลิท split split แตก, แยก
80
spring สปริง sprang สแปรง sprung สปรัง โดดอย่างเร็ว, เด้ง
81
sting สติง stung  สตัง stung สตัง ต่อย, แทง
82
stink สติงค stank สแตงค stunk สตังค ส่งกลิ่นเหม็น
83
strike สไตรค struck สตรัค struck ตี, ต่อย? กระทบ
84
string สตริง strung สตรัง strung ผูกเชือก ขึงสาย
85
swear สแว swore สวอ sworn สวอน สาบาน ปฏิญาณ
86
swell สเว็ล swelled สเว็ลด swollen สวอลเลิน โตขึ้น หนาขึ้น
87
swim สวิม swam สแวม swum ว่ายนํ้า
88
swing สวิง swung สวัง swung แกว่ง, เหวี่ยง
89
take เทค took ทุค taken เทคเคิน เอา พาไป
90
teach ทีช taught ทอท taught สอน
91
tear แท tore ทอ torn ทอน ฉีก ขาด
92
tell เท็ล told โทลด told บอก
93
think ธิง thought  ธอท thought คิด
94
throw ธโร threw ธรู thrown ธโรน เหวี่ยง ขว้าง
95
wake เวค woke โวค waken เวคเคิน ตื่น, ปลุก
96
wear แว wore วอ worn วอน สวม, ใส่
97
weave วีฝ wove โวฝ woven โวฝเฝิน ทอผ้า, สาน
98
weep วีพ wept เว็พท wept ร้องไห้
99
win วิน won ว็อน won ชนะ
100
write ไรท wrote โรท written ริทเทิน เขียน





REGULAR VERB กริยาปกติ


ช่อง 1 ช่อง 2 ช่อง 3 แปล
1
answer answered answered ตอบ (คำถาม) รับ (โทรศัพท)
2
arrive arrived arrived มาถึง ไปถึง
3
attend อะเท็นด attended อะเท็นเด็ด attended (เข้าร่วม) ประชุม
4
beg เบก begged เบกด begged ขอ
5
call  คอล called คอลด called เรียก โทรหา
6
change เชนจึ changed เชนจดึ changed เปลี่ยน
7
clean คลีน cleaned คลีน cleaned  ทำความสะอาด
8
cook คุค cooked คุคท cooked ทำอาหาร
9
cry คราย cried ครายด cried ร้องไห้
10
dance แดนซ danced แดนซท danced เต้นรำ
11
die ดาย died ดายด died ตาย
12
deliver ดิลิฝเวอะ deliverd ดิลิฝเวิด deliverd ส่งถึงที่
13
drop ดร็อพ dropped ดร็อพท dropped (น้ำ) หยด
14
end เอนด ended เอนดิด ended จบ
15
fix ฟิกซ fixed ฟิกซท fixed ซ่อม
16
hate เฮท hated เฮททิด hated เกลียด
17
help เฮ็ลพ helped เฮ็ลพท helped ช่วย
18
kiss คิส kissed คิสท kissed จูบ
19
lift ลิฟท lifted ลิฟเท็ด lifted ยก
20
listen ลิซเซิน listened ลิซเซินด listened ลิซเซินด ฟัง
21
live ลิฝ lived ลิฝด lived อาศัยอยู่
22
look ลุค looked ลุคท looked มอง
23
love เลิฝ loved  เลิฝด loved รัก
24
move มูฝ moved มูฝด moved มูฝด ย้าย  ขยับ
25
need นีด needed นีดเด็ด needed นีดเด็ด ต้องการ
26
paint เพ๊นท painted เพ๊นทิด painted วาดภาพ  ระบายสี
27
plan แพลน planned แพลนด planned วางแผน
28
play เพล played พเลด played เล่น
29
rain เรน rained เรนด raind ฝนตก
30
return returned returned กลับคืน
31
serve เสิฝ served เสิฝ served เสิร์ฟ
32
shop ช็อพ shopped ช็อพท shopped จ่ายตลาด
33
smoke สโมค smoked สโมคท smoked สโมคท สูบบุหรี่
34
sneeze สนีส sneezed สนีสด sneezed จาม
35
snow สโน snowed สโนด snowed หิมะตก
36
stay สเต stayed สเตด stayed พักอาศัย
37
stop สต็อพ stopped สต็อพท stopped หยุด
38
study สตัดดิ studied สตัดดิด studied เรียน
39
talk ทอค talked ทอคท talked สนทนา
40
travel แทรเวิล traveled แทรเวิลด traveled ท่องเที่ยว
41
visit วิสิท visited วิสิทเท็ด visited วิสิทเท็ด เยี่ยม  เที่ยว
42
wait เวท waited เวททิด waited รอ


คำศัพท์สัตว์ต่างๆรอบตัวเรา ภาษาอังกฤษพร้อมคำอ่าน คำแปล

คำ
ศัพท์ภาษาอังกฤษสัตว์ต่างๆรอบตัวเรา “Animals around us” มาดูกันสิว่าสัตว์ต่างๆที่เราพบเห็นค่อนข้างบ่อยนั้นมีอะไรกันบ้างเอ่ย อย่าลืมคลิกที่ลำโพงเพื่อฟังเสียงด้วยนะครับ
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEix5CTJwBdOgmVGqsW9TxrVUURSqoamEbNZ6cGWFuX3cQuLFjpdT2pZ-l1yQlhkq2z9WkKcgPM6MGPpSqLhCwK0xPJ69LWcygRMHF4EryC5iD9Ew596Ge-hXqp24aatX0J_f04ArC-OYUxb/s1600/Animals+Kingdom.jpg

ที่

คำศัพท์

ฟังเสียง

คำอ่าน

คำแปล

1

 cat

แค็ท

แมว

2

chicken

ชิ๊คเคิน

ไก่

3

cow

คาว

วัว

4

dog

ดอก

หมา

5

duck

ดัค

เป็ด

6

horse

ฮอส

ม้า

7

mouse

เมาส

หนู

8

pig

พิก

หมู

9

rabbit

แร๊บบิท

กระต่าย

10

sheep

ชีพ

แกะ

คำแนะนำ

หลังจากเรียนรู้คำศัพท์ชุดนี้แล้ว  ไปทดสอบคำศัพท์

คำศัพท์อาหารขยะ Junk Food ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่าน คำแปล

คำ
ศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารขยะ  (Junk Food) ที่เรียกว่าอาหารขยะ เพราะว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าต่องร่างกายน้อยนั่นเอง จะว่าไม่มีคุณค่าเลยก็ไม่ได้เสียทีเดียว อาหารเหล่านี้ควรกินน้อยๆนะครับ มาดูกันสิว่ามีอะไรบ้าง   คลิกที่ลำโพงเพื่อฟังเสียงครับ
http://www.sarahbesthealth.com/wp-content/uploads/2011/05/Junk-food.jpg

ที่

คำศัพท์

ฟังเสียง

คำอ่าน

คำแปล

1

burger

เบ๊อเกอะ

เบอร์เกอร์

2

cake

เค๊ก

เค้ก

3

candy

แค๊นดิ

ลูกอม

4

chocolate

ช็อคเลิท

ช็อกโกแลต

5

cookies

คุ๊กคีส

คุกกี้

6

doughnut

โด๊นัท

โดนัท

7

French fries

เฟร็นช ฟรายซ

มันฝรั่งทอด

8

hot dog

ฮ็อท ดอก

ฮอทดอก

9

pizza

พิ๊ซซะ

พิซซ่า

10

popcorn

พ็อพคอน

ข้าวโพอคั่ว

คำแนะนำ

หลังจากได้ศึกษาคำศัพท์ชุดนี้แล้ว ลองเข้าไปทดสอบคำศัพท์ได้

คำศัพท์อาหารที่มีประโยชน์ Healthy Food ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่าน คำแปล

คำ
ศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  (Healthy Food) ร่างกายของเราต้องการอาหารที่ดีมีคุณค่า มาเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับอาหารที่มีคุณค่าและน่ากินกันนะครับ  คลิกที่ลำโพงเพื่อฟังเสียงครับ
http://thinkprogress.org/wp-content/uploads/2013/03/Healthy-Foods.jpg

ที่

คำศัพท์

ฟังเสียง

คำอ่าน

คำแปล

1

food

ฟูด

อาหาร

2

bread

เบรด

ขนมปัง

3

cheese

ชีส

เนย

4

chicken

ชิ๊คเคิน

ไก่

5

egg

เอก

ไข่

6

fish

ฟิช

ปลา

7

noodle

นู๊เดิล

ก๋วยเตี๋ยว

8

rice

ไรซ

ข้าว

9

salad

แซ๊เลิด

สลัด

10

spaghetti

สปะเก็ททิ

สปาเก็ตตี้

11

steak

สเตค

เนื้อย่าง

คำแนะนำ

หลังจากได้ศึกษาคำศัพท์ชุดนี้แล้ว ลองเข้าไปทดสอบคำศัพท์ได้

คำศัพท์สีต่างๆ Colors ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่าน คำแปล

คำ
ศัพท์ภาษาอังกฤษสีต่างๆ (Color) จริงๆแล้วสีต่างๆมีค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน แต่เบื้องต้นเรียนรู้แค่ 11 สีให้ได้ก่อนแล้วกันนะครับ ที่เหลือค่อยเรียนรู้เอาทีหลังก็ได้ เพราะสีหลักๆที่พบเห็นก็มีแค่นี้แหละ คลิกที่ลำโพงเพื่อฟังเสียงครับ
http://www.rakenglish.com/wp-content/uploads/2013/06/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9.gif

ที่

คำศัพท์

ฟังเสียง

คำอ่าน

คำแปล

1

color

คั๊ลเลอะ

สี

2

black

แบล็ค

สีดำ

3

blue

บลู

สีน้ำเงิน

4

brown

บราวน

สีน้ำตาล

5

green

กรีน

สีเขียว

6

gray

เกร

สีเทา

7

orange

อ๊อรินจ

สีส้ม

8

pink

พิงค

สีชมพู

9

purple

เพ๊อเพิล

สีม่วง

10

red

เรด

สีแดง

11

white

ไวท

สีขาว

12

yellow

เย็ลโละ

สีเหลือง

คำแนะนำ

หลังจากได้ศึกษาคำศัพท์ชุดนี้แล้ว ลองเข้าไปทดสอบคำศัพท์ได้ที่