ประโยคภาษาอังกฤษ 5 ประโยคต่อไปนี้ถือว่าเป็นประโยคที่ใช้บ่อย และเป็นสำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวันเสียด้วย
เพราะเท่าที่สังเกตคนไทยที่พูดคุยกับฝรั่ง เอาตั้งแต่แบบงูๆปลา
หรือสนทนาจนลิงหลับก็ตาม ประโยคต่อไปนี้ก็อยู่ในนั้นแหละ
และอยากจะบอกว่าให้ท่องประโยคและบทสนทนาต่อไปนี้ให้ได้เลย
เพราะมันเป็นเทมเพลตมาตรฐานโลก
เพียงแค่เราพูดคุยกับฝรั้งด้วยประโยคง่ายๆแค่นี้
ก็มีคนอิจฉาแล้วว่าพูดอังกฤษได้ รับรอง
ประโยคที่ใช้บ่อย 5 ประโยคได้แก่
- การทักทาย
- การถามทุกข์สุข
- การถามชื่อ
- การถามถิ่นฐานที่อยู่
- การกล่าวลา
- การทักทาย
- การถามทุกข์สุข
คำตอบมาตฐานโลก คือ I am fine. อ่านว่า ไอ แอม ไฟน์ แปลว่า ฉ้นสบายดี ที่บอกว่าเป็นมาตรฐานโลกคือ ฝรั่งเองที่บอกว่าถ้าออกจากประเทศแล้วเจอคนชาติอื่น จะใช้สำนวนนี้ในการถามตอบเป็นมาตรฐานเลย เป๊ะๆ
เมื่อฝ่ายหนึ่งถาม อีกฝ่ายหนึ่งตอบ มันก็เป็นธรรมเนียมที่ต้องถามกลับ โดยใช้สำนวนเดียวกันเลย
- การถามชื่อ
คำตอบคือ My name is…..(ชื่อของเรา)… อ่านว่า มายเนมอิส…(ชื่อของเรา)…… แปลว่า ฉันชื่อ………(ชื่อของเรา)……….
- การถามถิ่นที่อยู่
คำตอบคือ I come from…….(ประเทศ)…. อ่านว่า อาย คัม ฟรอม…..(ประเทศ)…… แปลว่า ผมมาจาก…….(ประเทศ)……
- การกล่าวลา
ตัวอย่างบทสนทนา
ในการสนทนาจริงๆนั้น ฝรั่งก็ดูออกครับว่าเราเก่งมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราไม่เก่งเขาก็พยายามพูดตามแม่แบบมาตรฐานโลก ดังที่บอกไว้แหละครับ ส่วนมากเขาไม่ออกนอกร่องนอกรอย เดี๋ยวเราไปไม่เป็น เราต้องไปทักทายฝรั่งก่อนนะครับ จะให้เขามาทักเรามันยากมาก เพราะเขาไม่รู้ว่าใครพูดอังกฤษได้ หรือไม่ได้บ้าง และการสนทนาก็คือการถามไปถามมา ไม่ใช่ถามฝ่ายเดียว มาดูตัวอย่างบทสนทนาเลยครับ รับรองใช้ได้แน่นอน สมมติให้คุณชื่อ ส้ม และฝรั่งชื่อ จอห์นนะครับ เจอกันที่ชายหาดแห่งหนึ่งSom : Hello.
John: Hello.
Som : How are you?
John: I am fine. How are you?
Som : Iam fine.
Som: What is your name?
John: My name is John. What is your name?
Som: My name is Som. Where do you come from?
John: I come from England. Where do you come from?
Som: I come fromThailand.
…….คิดอะไรไม่ออก บอกอะไรไม่ได้ เพราะพูดได้แค่นี้ ก็บอกลาเลย
Som: Goodbye.
John: Bye.
คงไม่ต้องแปลให้นะครับ เพราะแปลให้หมดแล้วด้านบน มีคำศัพท์ใหม่แค่สองคำคือ
Thailand อ่านว่า ทายแลน แปลว่า ประเทศไทย
England อ่านว่า อิงแลน แปลว่า ประเทศอังกฤษ
เห็นไหมครับ ไม่ยากเลย แค่นี้ก็คุยกับฝรั่งได้แล้ว ลองเอาไปใช้ดูนะครับ
0 comments:
Post a Comment